ทรงผมปิกซี่เป็นทรงผมที่ดูดีและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งช่วยเสริมให้ใบหน้าดูโดดเด่นขึ้น ทรงผมปิกซี่มีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ทรงตัดสั้น ทรงเลเยอร์ และทรงเก๋ไก๋ นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้ทรงผมปิกซี่เป็นที่นิยม เพราะช่วยให้ผู้คนสามารถปรับเปลี่ยนทรงผมให้เข้ากับบุคลิกของตนเองได้ในแบบที่ทรงผมอื่นๆ ไม่สามารถทำได้ อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทรงผมปิกซี่และทรงผมที่มีแนวโน้มจะเป็นเทรนด์ในปีหน้า
สารบัญ
ทรงผมพิกซี่คืออะไร?
วิธีการตัดผมทรงปิ๊กซี่
ทรงผมสั้นพิกซี่ยอดนิยม
สรุป
ทรงผมพิกซี่คืออะไร?

ทรงผม Pixie มีต้นกำเนิดในช่วงทศวรรษ 1950 และกลายเป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมในหมู่คนดัง เช่น ออเดรย์ เฮปเบิร์น ทรงผม Pixie เป็นทรงผมที่ดูโดดเด่นและดูแลรักษาง่าย ชั้นสั้นกว่า ด้านข้างและเลเยอร์ที่ยาวกว่าเล็กน้อยด้านบน โดยทั่วไปจะตัดให้ชิดศีรษะ ลุคนี้จะช่วยเน้นกรอบใบหน้าของผู้สวมใส่และเน้นกราม โหนกแก้ม และดวงตาให้ดูเหมือนปิ๊กซี่ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ
ทรงผมแบบ Pixie ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่เริ่มมีการออกแบบเมื่อกลางศตวรรษที่ 20 และปัจจุบันมีทรงผมและสีสันให้เลือกหลากหลาย ทำให้ทรงผมแบบ Pixie กลายเป็นทรงผมยอดนิยมของคนที่มีรูปหน้าและสไตล์ทุกแบบ
วิธีการตัดผมทรงปิ๊กซี่

ทรงผมแบบ Pixie ไม่ใช่ทรงผมที่ง่ายที่สุด แต่สามารถทำได้ด้วยเทคนิคที่ดีและความแม่นยำ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ในการตัดผมมาก่อน
เครื่องมือที่จำเป็น:
กระป๋องฉีด (เติมน้ำ)
กรรไกรผอมบาง (สำหรับพื้นผิว, ทางเลือก)
มีดโกน (ขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสที่ต้องการ)
ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมเส้นผม
ใช้ขวดสเปรย์ฉีดผมให้เปียกเพื่อให้จัดทรงง่ายขึ้น ทำซ้ำหากผมเริ่มแห้งขณะที่คุณตัดผม
ขั้นตอนที่ 2: แบ่งผม
ใช้คลิปแบ่งผมเพื่อแบ่งผมออกเป็น 4 ส่วน คือ ด้านหลัง ด้านหน้า ศีรษะ และด้านข้าง วิธีนี้จะช่วยให้เน้นผมแต่ละส่วนได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 3: เริ่มตัดที่ท้ายทอย
ทรงผมแบบ Pixie ควรเริ่มจากท้ายทอย (ด้านหลังศีรษะ) เริ่มต้นด้วยการแบ่งผมเป็นส่วนเล็กๆ ที่ท้ายทอย แล้วจับผมให้เป็นมุม 45 องศาระหว่างนิ้วของคุณ ใช้นิ้วของคุณ กรรไกรตัดแต่งทรงผม เพื่อเริ่มตัดแต่งให้ได้ความยาวตามต้องการ โดยเว้นชั้นล่างให้สั้นลงเล็กน้อยเพื่อให้ดูเรียวลง
ขั้นตอนที่ 4: ทำงานขึ้นไปตามส่วนหลัง
ขณะที่ทำงานผ่านส่วนหลัง ให้ตัดขึ้นไปด้านบน ตัดผมเป็นส่วนย่อยแนวนอน และดึงผมแต่ละชั้นลงมาให้เท่ากันกับชั้นอื่นๆ วิธีนี้จะสร้างเอฟเฟกต์เลเยอร์และเพิ่มรูปทรงให้กับลุคในที่สุด
ขั้นตอนที่ 5: ตัดด้านข้าง
เมื่อทำส่วนหลังเสร็จแล้ว ให้ตัดส่วนด้านข้าง โดยใช้ความยาวด้านหลังเป็นแนวทาง ตัดตามแนวหู แล้วเอียงกรรไกรเข้าด้านในเล็กน้อยเพื่อปรับรูปหน้า วิธีนี้จะช่วยให้ส่วนด้านข้างกลมกลืนกับส่วนหลังและสร้างความสมมาตรตลอดทั้งชิ้น
ขั้นตอนที่ 6: ตัดยอดออก
ขั้นตอนต่อไปคือการคลายคลิปด้านบนและมงกุฎออก ก่อนที่จะตัดผม ให้ตัดสินใจเกี่ยวกับความยาวของผมด้านบน การตัดด้านบนให้ยาวกว่าด้านข้างเล็กน้อยจะทำให้ผมดูมีเท็กซ์เจอร์ และควรตัดเฉียงไปข้างหน้าหรือด้านข้าง ขึ้นอยู่กับทรงผม สิ่งสำคัญคือต้องตัดเป็นส่วนเล็กๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผมแต่ละชั้นจะเพิ่มวอลลุ่มให้กับทรงผมแบบปิกซี่
ขั้นตอนที่ 7: การผสมผสานและการสร้างพื้นผิว
ตอนนี้ตัดด้านข้างทั้งหมดแล้ว ถึงเวลาเกลี่ยและเพิ่มเท็กซ์เจอร์ หยิบกรรไกรเล็มผมบางหรือมีดโกนมาสักคู่ แล้วเริ่มเล็มผมที่มีลักษณะเส้นบางๆ ให้ดูนุ่มนวลลง วิธีนี้จะช่วยให้ทรงผมดูเรียบเนียนขึ้น หากลูกค้าต้องการผมหน้าม้า ให้ดึงผมบางส่วนมาด้านหน้าแล้วตัดให้ได้ความยาวตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 8: ความประณีต
ก่อนจะเป่าผมให้แห้ง ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าทรงผมนั้นสมมาตรกันจากมุมต่างๆ หรือไม่ ซึ่งคุณควรปรับตามความเหมาะสม
ขั้นตอนที่ 9: การออกแบบ
ทรงผมแบบ Pixie มักจะทำแบบยกผมหรือเพิ่มวอลลุ่ม ดังนั้น เมื่อคุณเป่าผมให้แห้งแล้ว คุณก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมแบบเบาๆ เช่น มูส เพื่อเพิ่มวอลลุ่มได้
ทรงผมสั้นพิกซี่ยอดนิยม

ทรงผมแบบ Pixie มีมานานหลายทศวรรษแล้ว และความนิยมของทรงผมแบบนี้ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีทรงผมใหม่ๆ เกิดขึ้น ตามข้อมูลของ Google Ads คำว่า "ทรงผมแบบ Pixie" ได้รับการค้นหาเฉลี่ย 201,000 ครั้งต่อเดือน โดยการค้นหามากที่สุดเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม
แม้ว่าจะมีสไตล์มากมายให้ลูกค้าเลือก แต่สามสไตล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีดังนี้:
ทรงพิกซี่คัตแบบมีเท็กซ์เจอร์

ทรงผมสั้นแบบมีเท็กซ์เจอร์ทำได้โดยการใช้กรรไกรตัดผมแบบมีเท็กซ์เจอร์เพื่อสร้างความยาวผมที่หลากหลายตลอดการตัด วิธีนี้จะเพิ่มมิติและวอลลุ่มให้กับทรงผมและทำให้ทรงผมดูเป็นธรรมชาติและยุ่งเหยิง
นี่คือทรงผมที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่มองหาทรงผมสนุกสนานที่ดูแลรักษาง่าย และเข้ากันได้กับสไตล์ส่วนตัวเกือบทุกสไตล์ตลอดทั้งฤดูกาล
ทรงตัดสั้นแบบคลาสสิก

ไม่มีอะไรจะบ่งบอกถึงความคลาสสิกได้เท่ากับทรงผมสั้นแบบพิกซี่อีกแล้ว ทรงผมนี้มีลักษณะเป็นผมสั้นที่ด้านบนยาวขึ้นและไล่ระดับไปทางด้านหลังและด้านข้าง มีลักษณะเด่นคือมีเส้นสายที่ดูอ่อนหวานและอ่อนหวานซึ่งช่วยเสริมกรอบหน้าให้สวยงาม จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นจุดเด่นบางอย่าง เช่น กรามและโหนกแก้ม
ทรงผมสั้นแบบนี้สามารถจัดแต่งให้ดูเรียบร้อยหรือจะจัดแต่งให้ดูยุ่งๆ ผ่อนคลายก็ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ทรงผมที่ใช้งานได้หลากหลายแบบนี้น่าจะยังคงอยู่ต่อไปอีกหลายทศวรรษ
ทรงปิ๊กซี่ตัดแบบไม่สมมาตร

ลูกค้าหลายคนเลือกทรงผมปิกซี่แบบอสมมาตรเพื่อให้ดูทันสมัยมากขึ้น ทรงผมทรงนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตรงที่ประกอบด้วยผมที่มีความยาวต่างกันในแต่ละด้าน ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกทรงผมได้หลากหลายแบบ โดยทั่วไปแล้ว จะตัดผมด้านหนึ่งให้สั้นลงในขณะที่อีกด้านยาวขึ้นเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวาและมีสไตล์มากขึ้น สุดท้ายนี้ วิธีที่นิยมใช้ในการจัดแต่งทรงผมทรงปิกซี่แบบนี้คือให้ด้านที่ยาวกว่าลากผ่านหน้าผาก
สรุป
ทรงผม Pixie เป็นทรงผมสั้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทรงหนึ่งสำหรับผู้หญิง แม้ว่าทรงผม Pixie แบบคลาสสิกจะยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ทรงผมอื่นๆ เช่น ทรงผม Pixie แบบมีเท็กซ์เจอร์และทรงผม Pixie แบบอสมมาตรก็เริ่มได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าที่ต้องการลุคที่ทันสมัยมากขึ้น เนื่องจากทรงผมนี้มีความซับซ้อนมากกว่า ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ลูกค้าหาช่างทำผมที่มีประสบการณ์แทนที่จะพยายามจัดแต่งทรงผมแบบนี้ที่บ้าน