หน้าแรก » การจัดหาผลิตภัณฑ์ » พลังงานทดแทน » ความต้องการไฟฟ้าของสนามแข่งนานาชาติบาห์เรนในช่วงสุดสัปดาห์ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันขับเคลื่อนด้วยโครงการพลังงานแสงอาทิตย์
พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับบาห์เรน ฟอร์มูล่า 1

ความต้องการไฟฟ้าของสนามแข่งนานาชาติบาห์เรนในช่วงสุดสัปดาห์ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันขับเคลื่อนด้วยโครงการพลังงานแสงอาทิตย์

  • สุดสัปดาห์ F1 ของบาห์เรนจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์หลังจากที่ BIC ประกาศสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนพื้นที่แล้วเสร็จ
  • ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 7 เดือน มีแผงโซลาร์เซลล์ 7,125 แผง ติดตั้งบนพื้นที่ 18,000 ตรม.
  • BIC กล่าวว่าจะดำเนินการขยายโครงการตามระยะต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานประจำปีทั้งหมดของวงจรจากพลังงานหมุนเวียน

สนามแข่ง Bahrain International Circuit (BIC) ได้ดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ซึ่งผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการสำหรับการแข่งขัน Formula 1 (F1) ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และมีแผนที่จะขยายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในสนามแข่งเพิ่มเติมในแต่ละช่วง โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานหมุนเวียนในแต่ละปี

ขณะที่ BIC ไม่ได้ระบุความจุที่แน่นอนของ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ก่อนหน้านี้ในปี 2021 บริษัทฯ ได้ออกประกวดราคาสำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบกระแสสลับขั้นต่ำ 3 เมกะวัตต์เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการแข่งขัน F1 สุดสัปดาห์

โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แล้วเสร็จภายใน 7 เดือนบนพื้นที่ทั้งหมด 7,125 ตรม. โดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 18,000 แผง BIC กล่าวว่า พลังงานแสงอาทิตย์ จากการที่โรงงานแห่งนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นในการทำให้ F1 Gulf Air Bahrain Grand Prix เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายในปี 2022 โดยผู้จัดงานระบุว่าโรงงานแห่งนี้จะช่วยให้หน่วยงานประหยัดค่าไฟฟ้าได้ "อย่างมีนัยสำคัญ" พร้อมทั้งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนของโรงงาน

เว็บไซต์ยังโฮสต์สิ่งที่ BIC บอกว่าเป็น 1st สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ

“เป็นเรื่องดีมากที่ความต้องการพลังงานตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขันทั้งหมดจะได้รับการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และแสดงให้เห็นว่าในฐานะชุมชนกีฬา เราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อให้มีส่วนสนับสนุนเชิงบวกในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเรา” Stefano Domenicali ประธานและซีอีโอของ F1 กล่าว

ตามที่ BIC ระบุ โครงการนี้สนับสนุนเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของบาห์เรนให้เกิดขึ้นจริงภายในปี 2060 และยังสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของ F1 ภายในปี 2030 อีกด้วย

ที่มาจาก ข่าวไทหยาง

แสดงความคิดเห็น

ที่อยู่อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่ ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *